ภัยร้ายใกล้ตัว สื่ออนาจาร
ไอดอลที่เด็กเลียนแบบ
กระแสยอดเข้าชมขึ้นสูง กด Like ของคลิปอนาจาร
เป็นการส่งเสริม หรือ ซ้ำเติม?
สื่ออินเตอร์เน็ตนับว่าเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ที่มีบทบาทสำคัญทางการสื่อสาร
ปัจจุบันสื่อออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Social network หรือ เว็บไซต์ต่างๆ
มีอิทธิพลอย่างมากในชีวิตประจำวันของพวกเรา ไม่ว่าจะรับข่าวสาร
ค้นหาข้อมูลได้ในทุกเรื่อง และเพื่อความบันเทิงต่างๆ ในขณะเดียวกันเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาอยู่ในยุคเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
สามารถเข้าถึงสิ่งต่างๆนานาได้ภายในพริบตาเดียวเพียงแค่ปลายนิ้วคลิ๊ก ทำให้เด็กสามารถเข้าถึงสื่อเหล่านี้ได้ง่าย
โดยอาจใช้บริการของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ทั่วไป หรือในที่พักอาศัยเอง ซึ่งการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตก็มีทั้งที่เหมาะสมและไม่เหมาะสม
กระแสสังคม พฤติกรรมการกด LIKE ในยุคปัจจุบันนี้เราสามารถเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น
social network ต่างๆ รวมไปถึงเว็บไซต์ เช่น Youtube การกด LIKE ถ้าแปลความหมายกันอย่างตรงตัว
นั่นหมายถึงผู้คนที่เข้ามาชมนั้นมีความชอบส่วนตัวกับข้อความ รูปภาพ หรือ
คลิปวิดีโอ แต่พฤติกรรมการกด LIKE ของคนไทยนั้นกลับสวนกระแส
และ เหมือนเป็นการส่งเสริมสิ่งที่ไม่ดี ถ้าเราหยิบยกกระแสคลิป จ๊ะ วงเทอร์โบเจ้าของเพลง
คันหูขึ้นมา ท่านผู้อ่านคงถึงบางอ้อถึงกระแสความแรงของคลิปนี้ที่โด่งดังไปทั่วประเทศ
เป็นเรื่อง ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ในสังคมไทยกันเลยทีเดียว
เพียงแค่มีผู้หญิงแต่งตัวโป๊ มายืนเต้น และร้องเพลง อะไรถึงทำให้เกิดกระแสผู้เข้าชมอย่างล้นหลามยอดคนดูใน
Youtube พุ่งกว่า 17 ล้านวิว และมีการอัพเดทคลิปเพลง คันหูแต่เป็นคนละเวอร์ชั่นอรกหลายคลิป
จนกระทั่งลามไปถึงหมู่เด็กและวัยรุ่นที่แห่กันเข้ามาชม
กดไลค์กันอย่างไม่ลืมหูลืมตาว่าเหมาะสมหรือไม่
จากกระแสสังคมที่ให้ความสนใจจึงทำให้เกิด “พฤติกรรมการเลียนแบบ” ของเด็ก
พฤติกรรมการเลียนแบบเกิดจากการที่ตัวเด็กได้รับรู้ว่า
หากทำพฤติกรรมเช่นนี้ตนเองจะกลายเป็นที่รู้จักสังคมในหมู่มาก
โดยที่ไม่สนว่าจะถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางไหน ขอเพียงให้ตนเองได้เป็นที่รู้จัก
เช่นพฤติกรรมการเลียนแบบของเด็กนักเรียนหญิงมัธยมต้นเต้นเปลื้องผ้ากลางห้องเรียนที่เป็นข่าว
และยังมีพฤติกรรมการเปลื้องผ้าถ่ายรูปหมู่ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน การตีความที่ผิดๆของเด็กว่าถ้ากระทำเช่นนี้แล้วตนเองจะเป็นที่รู้จักของสังคม
และมิหนำซ้ำ ยังมีการ อัพโหลดคลิปวิดีโอลงเว็บไซต์social media อย่างกว้างขวางและมีการ
แชร์ต่างๆนานา ภายในชั่วข้ามคืน การกระทำดังกล่าวก็กลายเป็นที่ให้ความสนใจของสังคมไทยไปแล้ว
พร้อมทั้งมียอดกด LIKE จำนวนมหาศาล
แต่ทิศทางในการวิพากษ์วิจารณ์นั้นพวกเราคงรู้กันดีว่าไม่มีออกมาในแง่บวกเลย
เหตุการณ์นี้ทำให้เราได้รับรู้ว่า กระแสสังคมที่ทำให้ยอดผู้เข้าชมพุ่งกระฉูด
พร้อมวัฒนธรรมการกด LIKE ของคลิปต่างๆนานา
สวนทางกับกระแสการวิพากษ์วิจารณ์
ที่มุ่งกล่าวให้เห็นถึงความวิบัติจากพฤติกรรมการลอกเลียนแบบของเด็กและเยาวชน
ซึ่งสังคมไทยต้องเล็งเห็นถึงความเป็นจริง การกระทำเช่นนี้
เหมือนเป็นการที่เราไปสนับสนุนให้คนลอกเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่
และทำไมเราถึงต้องกด LIKE และติดตามคลิปการแสดงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
สังคมเราควรจะมีการสนับสนุนอะไรบ้างที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับอนาคตของชาติ
เราควรจะปลูกฝังสิ่งใดให้กับเด็ก และระเบียบวิธีการปลูกฝั่งควรจะเป็นไปในทิศทางใด
การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วคงจะเป็นเรื่องยาก
แต่เราควรจะมุ่งการแก้ไขไปที่อนาคตว่าจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร เด็กนั้นก็เปรียบเสมือนผ้าขาว
มีวิจารณญาณในการไตร่ตรองที่ต่ำ ไม่สามารถเข้าใจถึงสภาวะกระแสสังคมในปัจจุบันได้
เพียงแต่เด็กนั้นกระทำสิ่งต่างๆด้วยอารมณ์
ความรู้สึกโดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาในภายภาคหน้า เช่นเดียวกับคำที่ว่า
“สิ่งไม่ดีเป็นสิ่งที่เลียนแบบง่ายกว่าสิ่งที่ดี”
การที่สังคมยังมีพฤติกรรมกระแสเช่นนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการส่งเสริมให้เด็กนั้นทำในสิ่งที่ผิดๆ
เราควรจะเติมสีที่สวยงาม และ เป็นแบบแผน ให้กับเด็ก ไม่ใช่เพียงสาดสีสันลงไปบนผ้าขาว
เติมอะไรลงไปอย่างใจนึก มิเช่นนั้น กระแสข่าวการลอกเลียนแบบพฤติกรรมที่ผิดๆ
ก็จะค่อยๆทยอยออกมาให้เราได้เห็น และอาจจะมีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้นก็เป็นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น